ONE DAY TRIP with Bus no.9 มิวเซียมสยาม/นภสร/หลงทาง(จริงๆ)/พิพิธภัณฑ์เหรียญ/หอศิลป์/ตลาดพลู

ONE DAY TRIP with Bus no.9 
1 วันกับรถเมถ์สาย 9 



พอหาเพลนเดินทางแล้ว เราพบว่ารถเมถ์สาย9 ไปได้หลายที่มากๆ
--วงเวียนใหญ่ ปากคลอง สะพานพุทธ เสาชิงช้า บางลำพู หอสมุดแห่งชาติ รพ.วชิระ รถไฟสามเสน 
ถนนข้าวสาร bangkokcity(ห้องสมุดใหม่) ตลาดพลู -- นั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรา....

ส่วนเป้าหมายหลักที่เราจะไป ก็จะมีมิวเซียมสยาม พิพิธภัณฑ์เหรียญ และอาจจะเก็บตกที่อื่นนิดๆหน่อยๆ เท่าที่จะทำได้ 



......การเดินทางคือเรา เริ่มต้นจากการซื้อกล้องตัวแรก #หนี้ก้อนแรก 
คล้ายๆว่าซื้อมาใหม่ก็จะเห่อหน่อยๆ  คนท้ั่วไปก็น่าจะมีอาการประมาณเรามั้ง
อยากไปถ่ายรูปเล่นอย่างแรงกล้าาาา ซึ่งการถ่ายรูปของเราเน้นแนว portrait 
ตามสไตล์สายโซเซียล แต่กระนั้นยังต้องเที่ยวใกล้ๆบ้าน เพราะวันจันทร์ฉันยังต้องไปทำงาน
บวกกับรถก็ไม่มี เงินเดือนก็นับว่ากรอบแกรบเพราะกลางเดือนแล้ว 
บวกกับจะต้องไปมิวเซียมตามรีเควสของน้องสาวที่สัญญาไว้ตั้งนานนม  
ก็เลยสรุปได้ว่า เราจะเดินทางกันโดยรถเมถ์ only 





เริ่มต้นที่หน้าปากซอยบ้าน จะว่าไปตอนนี้ทั้งฟุตบาท จุดรอรถ ก็ดีกว่าสมัยยังต้องนั่งรถเมถ์ไปเรียนเยอะมากๆๆ ดูอิฐนั้นซิ 
มารอรถเมถ์ก็เป็นก็สน่ห์นึงแหะ ไม่รู้เลยว่าจะมาตอนไหน 5555 วันนี้วันเสาร์คนน้อยสุดๆ รถเมถ์ที่ได้นั่ง ก็จะเป็นสาย 9 ปรับอากาศราคา 13 บาทตลอดสาย 


จุดแรกที่นั่งรถเมถ์สาย 9 มาลงคือ ป้ายตรงปากคลองตลาด จากนั้นให้เดินตรงมายาวๆจนสุดถนนแล้วเลี้ยวขวามาจะเจอที่กว้างๆโล่ง แล้วก็สะพานสีขาวที่เรียกว่า สะพานเจริญรัช ข้ามถนนมาฝั่งสถานีตำรวจ หาป้ายที่เขียนว่า ถนนสนามไชย มองตรงไปก็จะเห็น มิวเซียมสยาม






แถวนี้ก็จะมีป้ายบอกทางเป็นระยะๆ ซีดๆหน่อย แต่เป็นประโยชน์นะ มีต่างชาติเดินสวนกันไปมาเป็นระยะๆ ที่ได้แต่นึกในใจว่า อย่าถามทางฉันนะ = = เพราะว่าฉันนั้นก็ไม่รู้ทางงง


มิวเซียมสยาม ก็เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เคยมาเมื่อนานมากแล้ว เราเคยประทับใจที่นี้นะ
แบบว่าเล่าเรื่องประเทศไทยได้ดี ในนิทรรศการถาวร ชุด เรียงความสยามประเทศ 
ซึ่งตอนนี้อยู่ในช่วงปรับปรุง ตึ้งโป๊ะ !! ถถถถถ 
ความแต้มบุญน้อยนี้มันน่ากลัวจริงๆ ไปตรงไหนก็ปรับปรุง 55555
มีนิทรรศการเล็กๆจัดอยู่ ชื่อ ไทยทำ ทำ ทำไม 
แล้วส่วนข้าพเจ้าในวันนี้กับคอนเซ็ป ฉันมา มาทำอะไร (ในวันที่มิวเซียมปิดปรับปรุง)


 



 





คอนเซปน่าสนใจ ไทยทำ ทำ ทำไม ก็จะมีพื้นที่จัดแสดงอยู่ 1 ห้องใหญ่ ก็จะมีสิ่งประดิษฐ์สมัยก่อน ที่เอามาวางโชว์ไว้ ซึ่งบางอันเห็นแล้วก็ อ๋อ... แล้วก็อันที่เห็นแล้วก็เอ๊ะ 
ไว้ปรับปรุงส่วนถาวรเสร็จ จะแวะมาดูอีกที.....


สำหรับ พิพิธภัณฑ์ที่นี้สถาปัตยกรรมธีมขาว เหลือง แล้วก็มีต้นไม้เขียวๆ เป็นสไตล์ที่ถ่ายรูปสวยดี มีส่วนที่เป็น outdoor กว้างๆเลยด้วย รอบๆพิพิญภัณฑ์ก็มีจะเด็กๆมาวิ่งเล่น แล้วก็ผู้สูงอายุมานั่งชมสวนอยู่ด้วยเหมือนกัน 




อันนี้ส่วนนึงของงาน มีไฝกันตรงไหนบ้าง.... / มีซุ้มอาหารขายด้วย ราคาแรงประมาณนึง 

 




ชอบกรีนโซนข้างนอกนะ เขียวสะใจ ที่กว้างมากๆ 

-----หลังจากเดินมิวเซียมสยามเสร็จ แล้วก็กลับมาที่ปากคลองตลาด 



  ปากคลองตลาดหน้าตาไม่เหมือนที่คุ้นเคยเลย จำได้ว่าสมัยก่อนมีดอกไม้ขายเยอะมากกกก ส่วนตอนนี้เหลือแต่ร้านที่อยู่ในตึกเอง
หาร้านคาเฟ่ชิคๆคูลๆ นั้นก็คือ นภสร คาเฟ่





นึกว่ามานั่งกินที่ทองหล่อ บรรยากาศในร้านดูดีมากก  และราคาแรงมากฮับบ 
โกโก้ 120 บาท ร้านค่อนข้างเล็กนะ ชั้นล่างมีโซนจัดดอกไม้ ซึ่งตอนไปกำลังจัดกันอย่างจริงจัง ส่วนชั้น2 
ก็เป็นคาเฟ่ แค่เดินเข้ามาก็รู้สึกถึงความวินเทจ ทุกชิ้นเป็นเฟอร์ที่ประดับ+ขาย มีป้ายราคาติดเกือบทุกชิ้นเลย 
ได้มานั่งแปบเดียวเอง เพราะเดียวต้องไปต่อ รู้สึกดอกไม้ใบไม้แห้งๆกว่าที่คิดไปเยอะไม่สดชื่นเท่าไร แต่แอร์ฉ่ำสดชื่นนะ 5555
โกโก้โอเคเลย อร่อยยย ส่วนในร้านแสงน้อยมากๆฮับ 
 


ปล,ใครมาถ่ายกล้องมือถือน่าจะไม่ได้รูปไปอย่างแน่นอน55555 แสงน้อยจนต้องยอมใจจรืงๆ ..... 




ต่อไปก็นั่งรถเมถ์สาย9 อีกครั้ง เป้าหมายต่อไปคือพิพิธภัณฑ์เหรียญ
ซึ่งต้องทำการรถเมถ์เหมือนเดิมแต่นั่งไปไกลมากกกกก เพราะหลงทางอย่างแท้ทรู 
ความเชื่อใจในตัวพี่กระเป๋ารถเมถ์ได้หมดไป... ความจริงต้องมาลงที่บางลำภู เดินเอาแอบได้นะ 
ซึ่งห่างจากปากคลองราวๆ3-4ป้ายรถเมถ์เท่านั้น 
รถเมถ์ก็วิ่งไปแบบไหลๆไม่มีการรถติดใดๆรู้ตัวอีกทีก็ถึงอู่สถานีรถไฟสามเสนแล้วจ้า55555 . . 

ก็เลยได้รับความช่วยเหลือจากคุณพี่นายท่า นั่งรถเมถ์สายเดิมกลับมาลง55555
และแน่นอนว่ามาถึงจนได้ 


พิพิธภัณฑ์เหรียญ แน่นอนว่าตแนนี้มีการปิดปรุงในโซน ชั้น2 และชั้น 3 (โซนแสดงเหรียญจริงๆ)
แต้มบุญน้อยอย่างคาดไม่ถึงจริงๆ ซึ่งโซนแสดงเหรียญเปิดอีกทีช่วงปลายปีนะ 
โซนที่เปิดอยู่ตอนนี้ก็เลยมีแค่ชั้น 1 เข้าฟรีจ้าาา มีห้องถ้ำ แบบ3D สั่นและแสงแสงสี กับห้องป่าโชว์อุปกรณ์ที่เคยเป็นสื่อในการแลกเปลี่ยนในยุคก่อนๆ
ตื่นเต้นดีเหมือนกัน ใช้เวลาชมเเค่ 20 นาทีเองงง

มีประวัติของการใช้เหรียญจุดเริ่มต้นแบบเชิงประวัติหน่อยๆ enjoy ดีนะ เหมาะกับเด็กๆแหละ 

ที่นี้ก็มีกรีนโซนด้านนอกเช่นกันน ถ้ามาถ่ายรูปก็สวยงามม ภายนอกธีมขาวเหลืองคล้ายๆมิวเซียมสยามสูงมากกก 
ไว้มีโอกาสต้องมาอีกทีตอนปรับปรุงเสร็จแล้วอ่ะนะ มีเหรียญจริงมาโชว์ด้วยย รอกันต่อปายยยย


แล้วก็มาหอศิลป์เจ้าฟ้าที่อยู่ติดกันกับพิพิธภัณฑ์เหรียญเลยย เดินย้อนขึ้นมาได้ 


ตอนนั้นไปถึงประมาณ 4 โมง เกือบจะไม่ทันแล้วเพราะ หอศิลป์ปิด 4 โมงครึ่ง 
ตอนนี้มีนิทรรศการถาวร ภาพวาดฝีพระหัตย์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯรัชกาลที่ 9 
เข้าชมแล้วประทับใจมากจริงๆ สวยสุดๆ ซึ่งส่วนที่เป็นนิทรรศการถาวร ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปค่ะ


ส่วนที่เป็นโซนอื่นถ่ายรูปได้ปกติเลยย สวยๆหลายชิ้น เสน่ห์ของหอศิลป์ทุกที่ก็คือ 
รูปที่มาวางก็จะมาแบบต่างวาระ ต่างคอนเซปกัน รับรองว่าได้ชมแบบหลากหลายสุดๆไปเลย 
ชอบหลายรูปเลยรอบนี้....ก็มีโอกาสถ้าไม่เคยไปดู art gallery สักครั้งก็แนะนำเลย 
สุนทรีย์แบบเงียบๆกับตัวเอง และที่นี้ก็เข้าฟรีด้วยย

Howto Make up X REYA ลุคหวานๆ มาใสๆ



กลับไป


HOWTO MAKE UP X REYA  
ฮาวทูนี้เป็นพาร์ทต่อเนื่องจากรีวิวลิปแหละ
มี 2 ลุค เป็นหวานๆกับแซ่บๆ แบบง่ายทั้ง 2 ลุคเลยไปดูเลยย

 Sweet Make up Look
 แนวหวานใส ไปไหนก็ได้ผู้ใหญ่ไม่ตกใจ5555 ใช้สี 05 เบาๆสุด
ในสีทั้งหมดมาใช้แบบบลัชกับลิปเนอะ สีแซ่บนิดๆขอแบรคตาให้เบาๆสุด





Before - After 







 1. 


งานผิววันนี้ใช้ CC ครีม บางเบาๆไม่ได้เน้นปกปิดอะไรมากเนอะ
ลงแป้งเพื่อเซตเล็กน้อย แล้วลงบลัชออนกันเลยย



2.

บลัชวันนี้ใช้ลิปผสมกับครีมบำรุง แล้วก็แทปๆลงไป
เน้นลงหน้าแก้มกับปลายจมูกเล็กน้อยๆ 



3. ตาจะใช้โทนค่อนข้างสว่าง
ประมาณนี้ สีเข้มที่สุดสำหรับคัดเบ้าเป็นชมพูอมเทา 

สีวิ้งๆขอเป็นประกายขาว ทำให้ตาดูสว่างฟุ้งๆ
ใช้ดินสอเขียนคิ้วสำหรับเขียนขอบตาเบาๆ


ลงสีเบสขาวๆลงไปก่อน>ใช้สีวิ้งสีขาวทับลงไป>คัดเบ้าด้วยสีเมท
>ใช้ดินสอวาดไลน์เนอร์บางๆวาดเลยหางตายาวออกไปเล็กน้อย


4. ต่อไปทาปากกันเลยย สีชมพูนมส้มๆสีมีความนีออนนิดๆ
ทาในลุคหวานใสๆ ทำให้ดูสดใสดีนะ 

ทาเป็นแบบไล่สี>ลงแป้งฝุ่นบางๆก่อน>แตะสีลิปลงไป>เกลี่ยให้ทั่วไป
>ลงคอนซีลเลอร์ที่ขอบปาก>แล้วเกลี่ยให้ฟุ้งๆ



FINISH LOOK 






KAI PAD MED MAMUENG x Greennut




สวัสดีค่ะ หวานคนเดิมเพิ่มเติมคือเปิดศักราชใหม่กับบล็อคแนวทางใหม่ 

วันนี้นำเสนอฮาวทูเมนูอาหาร ครั้งแรกในบล็อคเลยจ้าาาแต่ก่อนจะไปหาเมนูอาหารที่จะทำในวันนี้ 
ขออนุญาตัดเข้าไทด์อิน สักครู่ 

REVIEW Greennut - กรีนนัท 
Healthy Trendy Snack


ถ้านึกถึงขนมถั่วลันเตาอบกรอบ นึกถึงกรีนนัท หรือใครนึกถึงอย่างอื่น (เอางี้หรอ)555555
ขออนุญาตไทด์อินหนักมาก เพราะชอบส่วนตัว 5555 ชอบกินมากและกินมานานเป็นสิบปีแล้วมั้ง 
อร่อยจริงๆนะ นึกอะไรไม่ออกบอกไม่ถูกก็หยิบอันนี้ใส่ตะกร้าตล้อดดด เป็นขนมที่กรอบๆที่กินได้เพลินๆ
และเป็น healthy snack ด้วยเพราะกินอร่อยและมีประโยชน์ เป็นถั่วแท้แน่นอน มาเป็นเม็ดถั่วขนาดนี้ 
ได้ประโยชน์จากโปรตีนถั่วเน้นๆ ไม่ใส่ผงชูรส /ใส่เกลือเสริมไอโอดีน /มีฮาลาลด้วยยย
และนอกจากกรีนนัทมีถั่วลันเตาที่เราคุ้นตาคุ้นตา ก็
มีเม็ดมะม่วงหิมพานต์อบเนยด้วยย
ซึ่งอร่อยไม่แพ้กันนน ขอรีวิวสั้นๆดังนี้

กรีนนัทมีให้เลือกซื้อหลายขนาดทั้งแบบถุงเล็ก 5 บาท /ถุงใหญ่ 10 บาท /แบบกระป๋อง 20 บาท
ส่วนหวานชอบแบบกระป๋องเก็บง่ายดี หาซื้อง่ายมาก มีขายทั้งร้านสะดวกซื้อและห้างสรรพสินค้าทั่วไป

ถั่วลันเตาอบกรอบ  
Crispy Green Peas snack


มีรสให้เลือกเยอะแยะมากมาย หวานได้มา 4 รสเลยย ออริจินอล/วาซาบิ/ ปลาหมึก /กุ้ง
ส่วนตัวหวานเองเคยกินแต่ออริจินอล กินอยู่รสเดียว 
พึ่งได้ลองชิมรสอื่นเป็นครั้งแรก
ซึ่งทุกรสกินเพลินหมด ถ้ากินเข้าไปเม็ดนึงแล้ว ยากที่จะหยุดได้555555


ออริจินอลไม่ต้องพูดถึงมาก อยากบอกว่าอร่อยมันส์ปากกินเพลินสุดดดดดดด ที่หนึ่งในใจ
กินเจก็กินได้ด้วยย 10 ปีที่แล้วกินแล้วเป็นยังไง วันนี้ก็ยังเหมือนเดิมมม อร่อยย
รสปลาหมึกกับรสกุ้ง ทำจากวัตถุดิบปลาหมึกและกุ้งแท้ๆด้วยยย 
เข้ากันได้ดีกว่าที่คิดไว้แหะ รสชาติอร่อยกลมแบบไม่น่าเชื่อคือไม่เคยกินมาก่อน ไม่ได้รสแรงเข้มข้นจนเกินไปนะ รักษาเอกลักษณ์ความกินเพลินเหมือนเดิมสุดท้ายคือรสวาซาบิ
ส่วนตัวชอบวาซาบิแหะ ก็เลยชอบรสนี้ มีความเข้มข้น
ถ้าใครชอบวาซาบิ ก็น่าจะชอบเลยเหมือนกันสุดดดด
รสอื่นๆที่มีให้เลือกอีกก็จะมี รสปลาแอนโชวี่, รสรวมรส , รสอบเกลือ, ทาบิ



เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบเนย
Butter Dry Roasted Cashew Nuts




เค็มนิดๆ ไม่มีเกลือเม็ดใหญ่ๆร่วงล้นเวลากิน ไม่มันเยิ้ม หอมเนยนิดๆ หรือจะเอามาทำเมนูอาหารก็เลิศเวอร์อลังการ สะดวกกว่ามานั่งคั่วเองและที่สำคัญอร่อยกว่าคั่วเองอีก
เก็บได้นานกว่าไม่มีเหม็นหืน แกะซองปุบใส่กะทะผัดได้เลย หรือไว้กินเล่นก็สบายมากก อร่อยยย




ตัดกลับมาที่ เมนูที่นำเสนอวันนี้ก็คือ.....
ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ + ถั่วลั่นเตาาาา
ตามหัวเลยย ว่าเกือบจะคลีน อาหารคลีนก็คือปรุงรสให้น้อยที่สุด
ซึ่งอาหารคลีนไม่จำเป็นต้องจืดชืดนะ โดยเมนูไก่ผัดเม็ดมะม่วง 

เป็นการประยุกต์อกไก่แสนธรรมดาเมนูเบสิคของชาวอาหารคลีน
บวกกับถั่วซึ่งเป็นโปรตีนจำเป็นที่ต้องกินในแต่ละวันมามิกซ์รวมกันน 

สูตรที่หวานทำวันนี้ไม่คลีนนิดนึงตรงไม่ได้ใช้ซอสแบบโลว์โซเดียม
แต่น้ำตาลใช้น้ำตาลหญ้าหวานแทนแล้วแหละ ปรุงรสให้มีความเผ็ดๆเล็กเพื่อดึงรสชาติ  

เอาเป็นว่าเป็นไอเดียไปประยุกต์กันอีกทีเน้อออ 

วัตถุดิบที่ใช้


อกไก่ 80 กรัม 2 ชิ้น
อกไก่หวานซื้อสำเร็จรูปมาเลย หาซื้อได้ในซุปเปอร์ ชิ้นละ 25 บาท
นุ่มเนียนชุ่มฉ่ำ และรวดเร็วมาก ฮับบบบบ ไม่ต้องมีสกิลใดๆก็ทำได้
อกไก่สามารถทำเองก็ได้เหมือนกัน ซื้ออกไก่มาหั่นแล้วจิ้มๆด้วยส้อมให้เป็นรูๆแล้ว
หมักด้วยนม+เกลือ พริกไทย แช่ตู้เย็นค้างไว้ 1 คืนแล้วเอามาต้มจนสุก ย่างให้ข้างนอกสีสวยงาม
ก็ได้ฟิลนี้เลยเหมือนกัน นุ่มหอมและไม่กระด้าง ref. สูตรมาจากในพันทิพเมื่อนานมากแล้วว

เห็ด 40 กรัม   /ฝักทอง 50 กรัม
หวานใช้เห็ดนางรมหลวงเฮอรินจิ 
สามารถใช้เห็ดฟาง เห็ดนางฟ้า หรือผักอื่นๆแล้วแต่สะดวก หรือชอบได้เลย
 ผักอื่นๆที่แนะนำก็มี พริกหวาน หัวหอม แครอท แปะก๊วย ประมาณนี้ 

เม็ดมะม่วงหิมพานต์+ถั่วลันเตา
เม็ดมะม่วงจัดไป 1 ถุง/ ถั่วลันเตาปริมาณเท่าๆกับเม็ดมะม่วง 
ซึ่งทั้ง 2 อย่าง หวานใช้แบบสำเร็จรูปนะ สุกแล้วพร้อมทานทั้งคู่ 
ของกรีนนัทนั้นแหละ (ไทดฺ์อินตล้อดด )
ชีวิตสะดวกกก เม็ดมะม่วงไม่ต้องคั่วเองให้น้ำมันเยิ้ม ไม่ต้องเสียเวลาคั่วด้วย 
ส่วนถั่วลันเตาถ้าซื้อในตลาดต้องมาเลอะออกจากฝักอีก งานช้าง 
ซึ่งถ้าเลือกแบบสำเร็จก็ใช้ได้เลย เทคเจอร์ก็จะกรอบกรึบๆ ไม่เหมือนใช้แบบสดมาทำอ่าาา 
ถั่วลันเตาเลือกรสวาซาบิด้วย เพื่อความเผ็ดร้อน

เครื่องปรุงที่ใช้ เพื่อความเป็นไก่ผัดเม็ดมะม่วงที่แท้จริง
พริกชี้ฟ้าแห้ง 3 เม็ด หั่นเล็กๆหน่อย /ต้นหอม 2 ก้านก็พอเเล้ว /กระเทียมกรีบใหญ่กรีบเดียวพอ 
ต้องมีนะ 3 อย่างนี้ ไม่มีคือพลาดดด

เครื่องปรุงรสที่ใช้
หญ้าหวาน + ซอสหอยนางรม อัตรา 1:2  น้ำเปล่า 
ในรูปมีพริกไทยด้วย แต่ตอนทำชิมแล้วเผ็ดพอแล้ว ก็เลยไม่ได้ใส่ลงไปแหละ



ไปทำกันเล้ยยยยยยยยย

1. เตรียมพร้อมวัตถุดิบหลักให้สุกก่อนเลย




ทำให้ผักสุกและอุ่นไก่ ไล่ไปทีละอย่างใช้หม้อแบบแบนๆ ความร้อนจะได้ทั่วถึง
ต้มฝักทองใส่เกลือในน้ำนิดนึง ใส่ลงไปในน้ำแล้วตั้งไฟกลางพอต้มให้น้ำเดือดปุบ ฝักทองก็จะนิ่มพอดีเลยส่วนเห็ดกับไก่ใช้วิธีผัดกับน้ำคลุกคลิกไฟกลางๆไปเรื่อยๆพอน้ำเดือด เห็ดจะสุกพอดี ไก่ใช้วิธีเดียวกันก็จะร้อนได้ที่เหมือนกันน เสร็จทั้งหมดแล้วก็พักไว้ก่อนน แปบนึง ไปทำซอสกัน



2. เตรียมซอส



ใส่น้ำมันเล็กน้อย ครึ่งช้อนก็พอหรือถ้ามีสเปรย์ก็ใช้ได้เช่นกัน แล้วเกลี่ยให้ทั่วกะทะ 
ใส่กระเทียมและพริกลงไปตั้งแต่น้ำมันยังไม่ร้อน
ค่อยๆผัดพริกแห้งกับกระเทียมให้หอมม ใช้ไฟกลางก็พอนะ พอสีเปลี่ยนให้หรี่ไฟเป็นไฟอ่อนแล้ว

เติมน้ำเปล่าลงไป สักประมาณ 1/4 ถ้วย 

ปรุงรสใช้หญ้าหวานกับน้ำมันหอย หญ้าหวานจะหวานกว่าน้ำตาลก็เบามือนิดนึง
น้ำมันหอยจริงๆโซเดียมสูงนะ แต่ว่ามันอร่อยก็ใส่ลงไป หวานใส่ปริมาณเท่าในรูปนี้ 2 ช้อน
คนๆจนๆละลาย เร่งเป็นไฟกลางให้เริ่มเดือดแล้วก็ซอสมีความข้นขึ้นเล็กน้อย




3.ผัดส่วนที่สุกแล้วกับซอสให้เข้ากัน
พอซอสเริ่มข้นให้ใส่ถั่วลั่นเตาและเม็ดมะม่วงลงไปก่อนเลยยย เร่งให้เป็นไฟแรง
ซอสซึมเข้าไป พอได้ทีแล้วใส่เห็ดและไก่ผัดให้เข้ากัน
แล้วจบโดยการโรยต้นหอมคลุกๆให้เข้ากัน

4. เสิร์ฟ


กินคู่กับ ฝักทองต้มเพื่อความเฮลตี้  และข้าวสวย เมนูนี้แบ่งกินได้ 2 มื้อเลย
ได้โปรตีนจากไก่และถั่ว มีสารเบต้าเคโรทีนจากถั่วและฝักทอง รสชาติกำลังพอดี
มีกลิ่นพริกแห้งและวาซาบินิดๆ ช่วยส่งให้เมนูนี้ดูดีอย่างไม่น่าเชื่อออ ที่สำคัญทำง่ายมากกกก

เมนูนี้จะค่อนข้างแตกต่างจากกินที่ร้านนิดนึงคือกลิ่นความเผ็ดจากพริกแห้ง+วาซาบิที่อยู่ในถั่วลันเตา
ซึ่งรวมกันได้พอดี ไม่แปลกเลยย เมนูนี้อร่อยยย คนกินคลีนให้ปรับสูตรแถวๆตรงปรุงซอสเนอะ 
ทำเสร็จออกมารู้สึกว่าไม่มันและไม่เหนียวเกินไป  ที่สำคัญคืออร่อยยยยยยย 
ทั้งถั่ว ไก่ เห็ด เม็ดมะม่วงเข้ากั้นเข้ากัน
ได้ทั้งเทสด้านรสแล้วก็ด้านกลิ่นเลยจัดเต็ม สูตรนี้ใช้ได้จริง 
รับประกันนนนนนนน อร่อยเฟ่อร์แน่นอนนนน
ไปลองทำกันดูน้าาาา 

จบการรีวิว + ทำอาหารไว้แต่เพียงเท่านี้


อ๋ออ มีกิจกรรมเพิ่มเติมจากทางกรีนนัท สำหรับคนที่ได้อ่านบล็อครีวิวอันนี้ด้วยยย  รับฟรีกิ๊ฟเซ็ต จากกรีนนัท
เมื่อซื้อกรีนนัทที่ห้างสรรพสินค้าหรือร้านสะดวกใดก็ใดครบ 89 บาท 
นำใบเสร็จ ระบุ Code ผู้ที่รีวิว (ของหวาน : GN009 ) แล้วส่งไปที่ออฟฟิศล็อกซเล่ย์ 
บริษัท ล็อกซเล่ย์ เทรดดิ้ง จำกัด 102 อาคารล็อกซเล่ย์ ถ. ณ ระนอง แขวงคลองเตย เขตคลองเตย
กทม. 10110 พร้อมจ่าหน้าซองเพิ่มเติมว่า เป็น กิจกรรม Greennut (revu)

เพื่อรับฟรีกิ๊ฟเซ็ต 
กรีนนัท 1 ชุด มูลค่า 150 บาท 
เพื่อรับฟรีกิ๊ฟเซ็ตกรีนนัท 1 ชุด มูลค่า 150 บาท ประกอบด้วย
- ขนาด 5 บาท : แอนโชวี 2 ซอง, รวมรส 2 ซอง, อบเกลือ 1 ซอง
- ขนาด 20 บาท : รสมาตรฐาน, ปลาหมึก, กุ้ง, วาซาบิ รสชาติละ 1 ซอง
- เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 1 ซอง - ทาบิ 2 ซอง




• ติดตามข้อมูลข่าวสาร และสถานที่จัดจำหน่าย ของกรีนนัทได้ที่ช่องทางข้างล่างนี้
http://www.loxtrade.com/
Twitter : Greennut_trend / Instragram : Greennut_trend
จัดจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้า 7-Eleven และ ร้านค้าทั่วไป





Review Every Day Routine MY SKINCARE

ถ้าพูดถึง Every Day Routine จะต้องมีพาร์ทนึงพูดถึง Skincare ใช้มั้ยล้าาา
แบบว่าคนเราถ้าอยากผิวดี ก็ต้องล้างหน้าให้สะอาด แล้วก็บำรุงให้สุดด้วยยยย






ไปดูของที่หวานใช้เลยยยยย
บำรุงผิวหวานถนัดมาทางสายเกาหลีแหละ ก็จะสลับใช้หลายยี่ห้อ
ตอนนี้ใช้ OHUI ก็ดีน้าา ชุ่มชื้นซึมง่าย ที่ชอบเหมือนกันก็จะมี 
Laneige White Renew (จุดดำๆดูจางลงมากเลย), 
Sulwhasoo Snowise (ใช้แล้วผิวแข็งแรงขึ้นนน
ตอนนั้นแพ้พวกผงเอกสาร แล้วหน้าแพ้ทุกสิ่งในโลก สิวเยอะมากก อันนี้คือช่วยชีวิต)
โดยสูตรที่เลือกใช้ก็จะ มีสารสกัดธรรมชาติ Whitening ไม่ก็ Hydrating
ที่เน้นคือต้องชุ่มชื้นและไม่ทำให้หน้ามันประมาณนี้ 
สกินแคร์ไม่ค่อยซีนะเพราะ อันที่ใช้แล้วไม่แพ้ ชอบ Texture  ก็ใช้จนหมดขวด 
แล้วก็เปลี่ยนไปยี่ห้อใหม่ รู้สึกเองว่าใช้อันเดิมนานๆผิวจะแย่ลงไรงี้




ถ้าพูดถึงเปลี่ยนเป็นยี่ห้อใหม่ค่อนข้าง อ่อนไหวกับพวก Tester แหะ
มีเท่าไรจัดส่งมาค่ะลองได้หมด5555
อันนี้ก็ชอบ HERA Waterin เนื้อเจลๆ ทาแล้วหน้าออกมันๆนิดนึง ทาได้แค่ก่อนนอน
ตื่นมาแบบผิวจะฟู อิ่มน้ำมากกกกก ชอบมากกก ต่อไปซื้ออันนี้แน่ๆ ดิวไว้ในใจเรียบร้อย
มีกันแดด Spectra Ban  เป็นกันแดดที่คุณหมอที่รักษาสิวแนะนำให้ใช้อ่ะนะ มันไปนิด
แต่กันแดดได้ดีเลย ไม่ระคายเคืองผิว แม้จะมีสิว ผิวอ่อนแอแค่ไหนน เวิร์คคค 
แต่ถ้าที่ใช้บ่อยก็จะมีกันแดดหลายรุ่นของ Biore ชอบ texture ของทุกอันเลย วนๆใช้มี 3 รุ่น
รุ่น Milk ถ้าแล้วผิวจะลื่นๆเป็นเบสมีสี แต่ถ้าหน้าแห้งหรือแพ้แอลกอฮอลล์ล่ะก็บายยย
Aqua Rich ลื่นๆไม่มีสี ติดจะมันนิดๆ Watery BB คือเหมือนทาBB เลยปกปิดระดับนึง

the saem ของเรคคอมเม้นต์สำหรับใต้ตา ทาตอนกลางคืนตื่นเช้ามาคือ โอ้โห้วว ดีขึ้นเยอะ
เพราะใต้ตาผลิตน้ำมันเองไม่ได้ ฉะนั้นดูแลเป็นพิเศษนิดนึงง

ลิปมัน Carmax และแม่เลียบ คือที่ 1 ในดวงใจที่พอจะกู้ชีพปากแห้งได้

น้ำหอมชอบของ yves rocher มีขวดเต็มขวดเล็กเต็มบ้านไปหมด 

Sheene เซรั่มอันนี้เฉยๆมากก แต่ถ้าวันไหนแต่งหน้าแล้วอยากได้ลุควาวๆ
สตาร์ทด้วยอันนี้เลย วาวสุด วาวได้อีกกก หน้าฉ่ำสายเกา ต้องลองงง


มาสก์ก็ใช้เยอะ ประมาณ 3 วันต่อสัปดาห์
ก็จะสลับ Sleeping pack แผ่นมาส์กแล้วแต่ว่าความขี้เกียจเบอร์ไหน
ถ้าขี้เกียจมากก Sleeping pack คือช้อยด์หลัก

มาหมวด Sleeping pack ที่ใช้อยู่ 
มี SU: M 37 ชุ่มชื้นจริงๆ ผิวฟูอิ่ม คล้ายๆ Hera แต่อันนี้ออกจะเหนียวข้นกว่า
เทคเจอร์และกลิ่นยังไม่ใช่แบบที่ชอบแหะ แต่ใช้ดีๆ
Daiso Sleeping Pack Collagen เรคคอมเม้นต์สุดด 60 บาท ใช้แล้วผิวดูบลิ้งๆขึ้นมาเลย
หวานจะใช้ช่วงเช้าก่อนแต่งหน้า แบบทาก่อนไปอาบน้ำ พอจะแต่งหน้าก็ล้างออกคือดี!!!!
Daiso Tofu ชอบกลิ่นนะหอมแบบที่ชอบ แต่ texture ไม่โดนอ่าาา เหนียวเกินไปนิดด
คล้ายๆยี่ห้อนึงในเซเว่น คล้ายมากๆๆๆ อันนี้ถูกกว่าเพราะ 60 บาทจัดมาทั้งกระปุก 
ถ้าชอบใน 7-11 อันนั้น อันนี้ก็น่าจะชอบนะ



แบบแผ่นมาสก์ เรียกว่าใช้ทุกยี่ห้อที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเลย มีติดตู้ไว้ตลอดๆ
อันไหนลด 1 แถม 1 ตามไปตำมาหมดดดดดดดด จำไม่ได้ว่าใช้ไรไปบ้างแหะ
คิดว่าเคยลองมาหมดที่มีอยู่ใน Watson  Boots แล้วแหละ แพงถูกจัดหมด
มีสลับเข้าๆออกๆตลอด สูตรที่เน้นคือ Whitening แล้วก็ชุ่มชื้นเป็นหลัก 
อันที่ใช้แล้วดีพอแกะแผ่นมาส์กออกจะรู้สึกถึงความแตกต่างได้เลย
ถ้ายี่ห้อที่จำได้ว่ายี่ห้อนี้ดี ก็จะซื้อกลับมาติดตู้ไว้ถ้ามีโอกาส
พอลิสต์ๆดูมีอันที่ชอบเยอะเเหะ คัดมามา 8 ยี่ห้อ

JABS อันนี้ใช้แล้วใส บลิ้งๆๆๆ กลิ่นหอมแบบที่ชอบพอดีเลย 
Rank 1 สำหรับหวาน ราคาดี คุณภาพก็ดี้ดี อันนี้เรคคอมเม้นต์ ตอนนี้เปลี่ยนแพ็คเกจแล้วด้วย ก็ดูรุ่นดีๆ 
Faith and Face ก็เวิร์คคค แผ่นมาส์กจะบางๆใสๆ บลิ้งๆเหมือนกัน 
The Seam ก็ชอบบ มีความ organic ชอบสูตรที่ GD เป็นพรีเซนเตอร์อ่าา
 สาหร่ายแดงมั้ง ผิวแบบดูตื่นเลย ส่วนรุ่น Aloe ก็ชุ่มชื้นดีแต่ไม่ได้พิเศษอะไร
ล่าสุดคือ Belov มาสก์ทองคำที่ได้มาลองก็ดีนะ เป็นแผ่นมาร์กเดียวที่ใช้แล้วให้ล้างออกด้วย
แต่ล้างออกแล้วยังบำรุงต่อไป ตื่นเช้ามาบลิ้งเช่นกันนน

อื่นๆที่เคยลองแล้วโดน แต่ไม่มีในตู้ตอนนี้ก็จะมี
 Watson อาจจะไม่ได้ขาวใส บลิ้งเว่อร์ ให้ความชุ่มชื้นเป็นหลัก แต่ถูกอ่าาา ถูกมากๆคุ้มค่าการลอง
Neutrogena Fine Fairness ดีมาก ใสบลิ้ง แบบกระจ่างขึ้นทันทีที่ใช้เลย
ติดอย่างเดียวแพงไปนิดดด คือหวานใช้เยอะ แผ่นนึงไปราคาร้อยกว่า ยังไม่ไหวนะ 55555
Leader Clinic ชอบสีม่วงคือชัดสุดว่าผิวนุ่มนิ่มขึ้นชัดเจน สีอื่นๆหวานเฉยๆ 
Lululun ทีมาเป็นแพ็ค 7 วันก็เวิร์ค ไม่ได้ชุ่มชื้นหนักๆเหมือนมาส์กที่ใช้บ่อยๆยี่ห้ออื่น
 แต่ใช้ติดกัน 7 วัน ผิวก็บลิ้งๆขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลย ชอบสีม่วง ถูกและดีอีกอันที่อยากให้ลอง




สุดท้ายคือแป้ง แป้งสไตล์แป้งเด็กจะมีความอเนกประสงค์อ่ะเนอะ 
บางทีทาครีมแล้วหน้าเหนียวก็ปัดๆหน่อยหรือลงรองพื้นก็ใช้แป้งเด็กเนี่ยแหละเซตเวิร์ค 
Johnson รุ่นนี้คือเนื้อนุ่มมากกกกกกกกก ชอบๆ กลิ่นยังไม่โดนแต่ Texture ดีสุดๆ
Shiseido ก็หอมแบบที่ชอบเลยย คุ้มมันได้ดีเลย หมดกระปุกที่สามหรือสี่แล้วมั้ง ยังคงชอบ
ซึ่งแป้งเด็กแบบนี้ไม่มีไม่ได้ต้องซื้อกลับมาตลอดด 

ถามว่าต่างกับแป้งเด็กกระปุกใหญ่ๆมั้ย อยากบอกว่ามันต่างอ่าาา
ต่างจริงๆอธิบายไม่ถูกว่าดีกว่าตรงไหน ต้องลองใช้เองล่ะมั้ง ถึงจะบอกได้ว่าดีกว่าตรงไหน5555




จบรีวิวสกินแคร์ประจำวันตามนี้

XOXO